
งานก่อสร้างอาคาร เป็นหนึ่งในกระบวนการสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในทุกประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือสิ่งปลูกสร้างสาธารณะ งานก่อสร้างอาคาร นั้นไม่ได้หมายถึงเพียงแค่การวางโครงสร้างเท่านั้น แต่ครอบคลุมถึงการทำงานร่วมกันของหลายฝ่าย หลายระบบ และหลายแขนงวิชาชีพ เพื่อให้อาคารหนึ่งหลังสามารถใช้งานได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะสรุป ประเภทของงานก่อสร้างอาคาร พร้อมอธิบายกระบวนการทำงานจริงในไซต์งาน ใครเกี่ยวข้องบ้าง และจะควบคุมคุณภาพกับความปลอดภัยอย่างไร เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของการ รับเหมาก่อสร้าง อย่างครบถ้วน

ประเภทของงานก่อสร้างอาคาร
งานก่อสร้างอาคารสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ได้แก่:
- งานโครงสร้าง (Structural Work)
- งานระบบประกอบอาคาร (Building Services / MEP)
- งานสถาปัตยกรรม (Architectural Work)
-
งานโครงสร้าง (Structural Work)
เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของอาคาร เพราะเป็นโครงสร้างหลักที่รองรับน้ำหนักและให้ความมั่นคงปลอดภัย งานโครงสร้างสามารถแบ่งย่อยได้อีกเป็น:
- งานโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก (Reinforced Concrete) เช่น ฐานราก เสา คาน พื้น
- งานโครงสร้างเหล็ก (Steel Structure) เช่น โครงหลังคา โรงงานขนาดใหญ่
- งานเสาเข็มและฐานรากลึก เช่น เสาเข็มเจาะ เสาเข็มตอก
ในบางโครงการอาจใช้ระบบโครงสร้างผสม เช่น เสา-คานเป็นคอนกรีต แต่โครงหลังคาเป็นเหล็ก เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและประหยัดต้นทุน
-
งานระบบประกอบอาคาร (Building Services / MEP)
ระบบประกอบอาคารคือระบบที่ทำให้อาคารใช้งานได้จริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของไฟฟ้า น้ำ หรือความปลอดภัย ประกอบด้วย:
- ระบบไฟฟ้าและสื่อสาร (Electrical & Communication Systems) เช่น ตู้เมนไฟ สายไฟ แสงสว่าง ระบบ LAN
- ระบบสุขาภิบาล (Sanitary System) เช่น ท่อน้ำดี น้ำเสีย ถังบำบัด
- ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ (HVAC) เช่น แอร์ Duct พัดลมระบาย
- ระบบป้องกันอัคคีภัย (Fire Protection) เช่น สปริงเกลอร์ เครื่องดับเพลิง สัญญาณเตือนเพลิงไหม้
งานระบบเหล่านี้ต้องออกแบบร่วมกันกับสถาปนิกและวิศวกรโครงสร้างตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เกิดการแก้ไขซ้ำในภายหลัง
-
งานสถาปัตยกรรม (Architectural Work)
งานสถาปัตย์คือส่วนที่ทำให้อาคาร “สวยงาม” และ “อยู่ได้จริง” ได้แก่:
- งานผนัง ฉาบปูน ติดกระเบื้อง ปูกระเบื้อง
- งานติดตั้งประตู-หน้าต่าง อลูมิเนียม กระจก
- งานหลังคา ระบบกันซึม
- งานตกแต่งภายใน ผิวผนัง เพดาน สี
- งานภูมิทัศน์รอบอาคาร (Landscape)
งานสถาปัตย์จะเป็นช่วงหลังสุดของโครงการก่อสร้าง แต่ต้องอาศัยการเตรียมพร้อมตั้งแต่เริ่มต้น เช่น จุดท่อน้ำ จุดไฟ จุดยึดอุปกรณ์ตกแต่ง ต้องวางไว้ล่วงหน้าให้สอดคล้องกับแบบ

ขั้นตอนการดำเนินงานจริงในไซต์ก่อสร้าง
แม้ว่าการก่อสร้างอาคารแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดต่างกัน แต่โครงสร้างหลักของกระบวนการดำเนินงานมักแบ่งได้เป็นลำดับขั้น ดังนี้:
- การเตรียมงานก่อนก่อสร้าง
- งานโครงสร้างหลัก
- งานระบบประกอบอาคาร
- งานสถาปัตยกรรม
- งานตรวจสอบและทดสอบระบบ
- งานเก็บรายละเอียดและส่งมอบงาน
-
การเตรียมงานก่อนก่อสร้าง
- เคลียร์พื้นที่ก่อสร้าง รื้อถอน (ถ้ามี)
- ตั้งแนวระดับและหมุดอ้างอิง
- วางแผนผังการทำงานในไซต์ เช่น ตำแหน่งปั้นจั่น จุดเก็บวัสดุ
- ตั้งสำนักงานไซต์ชั่วคราวและระบบน้ำ-ไฟชั่วคราว
-
งานโครงสร้างหลัก
- งานเสาเข็ม ฐานราก
- งานเสา คาน พื้น
- งานโครงหลังคา (คอนกรีตหรือเหล็ก)
- งานบันไดคอนกรีตหรือโครงสร้างประกอบ
ขั้นตอนนี้ต้องใช้การตรวจสอบคุณภาพวัสดุ เช่น การทดสอบคอนกรีต ความลึกเสาเข็ม ความเรียบของแบบหล่อ
-
งานระบบประกอบอาคาร
- เดินท่อน้ำดี น้ำเสีย ฝังใต้พื้นหรือผนัง
- เดินท่อไฟฟ้าในพื้น หรือในฝ้าเพดาน
- ติดตั้งตู้ไฟเมนสายเมน
- วางระบบแอร์/ท่อระบายอากาศ
การประสานงานระหว่างช่างระบบและช่างโครงสร้างเป็นสิ่งสำคัญในขั้นตอนนี้ หากขาดการวางแผน อาจต้องเจาะพื้น/ผนังเพื่อเดินท่อซ้ำ
-
งานสถาปัตยกรรม
- ฉาบปูน เก็บผิว
- ติดตั้งฝ้า เพดาน ระแนง
- ติดตั้งกระจก อลูมิเนียม
- ติดตั้งประตู หน้าต่าง
- ปูพื้น / ทาสี
- ติดตั้งสุขภัณฑ์
ขั้นตอนนี้เป็นภาพที่ลูกค้าจะเห็นชัดเจนที่สุด จึงต้องควบคุมคุณภาพเป็นพิเศษ เช่น สีต้องเรียบสม่ำเสมอ แนวกระเบื้องตรง ไม่หลุดล่อน
-
งานตรวจสอบและทดสอบระบบ
- ทดสอบระบบไฟฟ้า – เบรกเกอร์ ระบบแสงสว่าง
- ทดสอบระบบน้ำ – ตรวจสอบแรงดัน ท่อรั่วซึมหรือไม่
- ทดสอบระบบแอร์ และการหมุนเวียนอากาศ
- ทดสอบระบบดับเพลิง เช่น Fire Alarm และ Sprinkler
- ตรวจสอบโครงสร้างอีกครั้งโดยวิศวกรควบคุม
-
งานเก็บรายละเอียดและส่งมอบงาน
- เก็บงานเก็บสี เก็บซิลิโคน ซ่อมผิวงาน
- ติดตั้งเฟอร์นิเจอร์ / อุปกรณ์ตกแต่ง
- ทำความสะอาด
ส่งมอบงานให้เจ้าของโครงการ พร้อมคู่มือการใช้งานระบบ

ผู้เกี่ยวข้องในงานก่อสร้างแต่ละช่วง
งานก่อสร้างอาคารเป็นความร่วมมือของหลายวิชาชีพ โดยแต่ละฝ่ายมีบทบาทดังนี้:
- สถาปนิก: ออกแบบภาพรวม สไตล์ ฟังก์ชัน และประสานการออกแบบทั้งหมด
- วิศวกรโยธา: ออกแบบโครงสร้าง คำนวณน้ำหนัก ตรวจสอบความมั่นคง
- วิศวกรระบบ (MEP): ออกแบบไฟฟ้า สุขาภิบาล แอร์ ป้องกันไฟ
- ผู้รับเหมา: วางแผนงาน จัดคน จัดวัสดุ ควบคุมหน้างาน
- ช่างเทคนิค: ช่างโครงสร้าง ช่างระบบไฟฟ้า ช่างประปา ช่างสถาปัตย์
- ผู้ควบคุมงาน (Site Engineer): ตรวจสอบงานตามแบบ แก้ไขหน้างาน ประสานผู้รับเหมา
- ผู้ตรวจสอบอาคาร (ถ้ามี): ตรวจสอบความปลอดภัยก่อนใช้งานจริง
วิธีควบคุมคุณภาพในงานก่อสร้าง
- ใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน และตรวจรับวัสดุก่อนใช้งาน
- ตรวจสอบคุณภาพงานแต่ละขั้นตอน เช่น การเทคอนกรีต การเชื่อมเหล็ก
- มีการตรวจสอบแบบ (Shop Drawing) กับหน้างาน
- เก็บบันทึกภาพและรายงานความคืบหน้า
- ทำการทดสอบระบบ (Testing & Commissioning) ก่อนส่งมอบ
- ส่งมอบคู่มือการใช้งาน และแบบ As-built Drawing ให้เจ้าของโครงการ
ความปลอดภัยในงานก่อสร้าง
ไซต์ก่อสร้างมีความเสี่ยงสูง จึงต้องควบคุมความปลอดภัยอย่างจริงจัง เช่น:
- การฝึกอบรมพนักงานเรื่องความปลอดภัย
- การสวมใส่อุปกรณ์นิรภัย เช่น หมวก รองเท้า ถุงมือ
- มีป้ายเตือน จุดล้างตา และอุปกรณ์ดับเพลิง
- มีเจ้าหน้าที่ความปลอดภัย (จป.) ตรวจสอบตามกฎหมาย
- หมั่นตรวจสอบนั่งร้าน เครื่องมือ และสายไฟอยู่เสมอ
- มีแผนเผชิญเหตุฉุกเฉินกรณีอุบัติเหตุหรือไฟไหม้
สรุป งานก่อสร้างอาคาร มีกี่ประเภท?
งานก่อสร้างอาคาร เป็นกระบวนการที่ซับซ้อนและต้องการการทำงานร่วมกันจากหลายฝ่าย ตั้งแต่งานโครงสร้าง งานระบบ และงานสถาปัตย์ หากไม่มีการวางแผนอย่างรอบคอบและการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด อาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้งานอาคารภายหลังได้
การเข้าใจ ประเภทของงานก่อสร้าง และขั้นตอนในแต่ละช่วง จะช่วยให้เจ้าของโครงการ วิศวกร หรือแม้แต่ช่างทั่วไปสามารถวางแผน ตรวจสอบ และส่งมอบอาคารที่มีคุณภาพและปลอดภัยได้อย่างสมบูรณ์
หากคุณต้องการตัวอย่างแบบแปลน รายการวัสดุ (BOQ) หรือคำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกผู้รับเหมาให้ตรงกับประเภทอาคาร สามารถแจ้งได้ ผมยินดีจัดทำให้ตามความต้องการของคุณ
