ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร

การก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก อาคารพาณิชย์ โกดัง หรือโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการวางแผนอย่างเป็นระบบ หากคุณเป็นเจ้าของโครงการ หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านหลังแรก คำว่า ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร อาจฟังดูซับซ้อน แต่ความจริงแล้วสามารถเข้าใจได้ง่ายภายใน 7 ขั้นตอนหลัก ที่บทความนี้จะอธิบายให้ชัดเจน

เราได้สรุปเนื้อหาจากประสบการณ์ของ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง เพื่อให้คุณเข้าใจโครงสร้างการทำงาน ตั้งแต่เริ่มจนส่งมอบ พร้อมคำแนะนำในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้โครงการของคุณราบรื่น มีประสิทธิภาพ และจบในงบประมาณ

เริ่มต้นก่อสร้างอาคาร

ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมตัว – วางแผนโครงการให้ชัดเจน

ก่อนการก่อสร้างใด ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางแผน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทั้งแบบอาคาร งบประมาณ ระยะเวลา และผลลัพธ์ของงานทั้งหมด

สิ่งที่ควรวางแผน

  • วัตถุประสงค์: ต้องการสร้างอาคารเพื่ออะไร? (อยู่อาศัย, พาณิชย์, อุตสาหกรรม)
  • ขนาดพื้นที่และที่ดิน: ขนาด, รูปร่าง, ทำเล, ความลาดชัน
  • งบประมาณโดยประมาณ: เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อขนาดและวัสดุ
  • ความต้องการพิเศษ: เช่น ต้องการพลังงานแสงอาทิตย์, ห้องเย็น, พื้นอีพ็อกซี่ ฯลฯ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : เจ้าของโครงการควรจัดทำ Check List ความต้องการก่อนคุยกับผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมา เพื่อให้งานออกแบบตอบโจทย์จริง ไม่ต้องแก้แบบหลายรอบ

ออกแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้างอาคาร

ขั้นตอนที่ 2 : ออกแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง

เมื่อมีข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งควรดำเนินการโดย สถาปนิก และ วิศวกรโยธา ที่มีใบประกอบวิชาชีพ

แบบที่ต้องมี

  • แบบสถาปัตยกรรม (แปลน, รูปด้าน, รูปตัด, 3D ถ้ามี)
  • แบบโครงสร้าง (เสา, คาน, ฐานราก)
  • แบบไฟฟ้า, ประปา, สุขาภิบาล
  • BOQ (รายการวัสดุและปริมาณงาน)

สิ่งสำคัญ

  • ต้องสอดคล้องกับ กฎหมายควบคุมอาคาร (เช่น ระยะร่น, ความสูง)
  • รองรับฟังก์ชันใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
  • ง่ายต่อการก่อสร้าง ไม่ซับซ้อนเกินความจำเป็น

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : การใช้ภาพ 3D ร่วมกับแบบ 2D ช่วยให้เจ้าของโครงการเห็นภาพชัด ลดปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื่อน

ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร

ขั้นตอนที่ 3 : ขออนุญาตก่อสร้าง

หลังจากได้แบบที่สมบูรณ์แล้ว จำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการในท้องที่ เช่น เทศบาล หรืออบต. ก่อนเริ่มก่อสร้าง

เอกสารที่ต้องเตรียม

  • แบบแปลนพร้อมเซ็นโดยสถาปนิก/วิศวกร
  • หนังสือรับรองจากวิศวกร
  • สำเนาโฉนดที่ดิน
  • แบบฟอร์มคำขอ (ข.1)
  • เอกสารเจ้าของโครงการ

ระยะเวลาดำเนินการ : 30–60 วัน ขึ้นอยู่กับเขตพื้นที่และความครบถ้วนของเอกสาร

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรตรวจสอบว่าแบบที่ยื่นได้รับการออกแบบตามข้อกำหนดผังเมืองและอาคารในเขตพื้นที่นั้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการแก้ไขภายหลัง

เริ่มงานก่อสร้าง

ขั้นตอนที่ 4 : เริ่มงานก่อสร้าง (Construction Phase)

เมื่อได้รับใบอนุญาต จึงสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ โดยมีขั้นตอนย่อยที่ชัดเจน:

1. เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง

  • ปรับระดับดิน ถมดิน ตีผัง วางแนวรั้วชั่วคราว
  • วางแนวเขตอาคาร และจุดฐานราก
  • วางท่อน้ำ ท่อสายไฟใต้ดินล่วงหน้า

2. โครงสร้าง (Structural Work)

  • ฐานราก, เสา, คาน, พื้น, หลังคา
  • ตรวจสอบระดับ, แนวดิ่ง, วัสดุทุกขั้นตอน

3. งานสถาปัตย์

  • ผนัง, พื้น, ฝ้า, ประตู–หน้าต่าง, สี
  • งานปูพื้น, งานตกแต่งภายนอก–ภายใน

4. ระบบ (M&E Work)

  • ระบบไฟฟ้า, ประปา, สุขาภิบาล
  • ระบบระบายอากาศ, CCTV, กันฟ้าผ่า ฯลฯ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรมีผู้ควบคุมงานประจำไซต์ เพื่อรายงานความคืบหน้า และตรวจสอบมาตรฐานทุกวัน

ตรวจสอบความเรียบร้อยอาคาร

ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบความเรียบร้อย (QC & Punch List)

เมื่อการก่อสร้างใกล้เสร็จ ควรมีการตรวจสอบคุณภาพงานในแต่ละจุด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามแบบและไม่มีข้อบกพร่อง

รายการที่ควรตรวจสอบ

  • โครงสร้างมีรอยแตกร้าวหรือไม่
  • งานระบบไฟฟ้า–น้ำใช้การได้จริง
  • ประตู หน้าต่าง ปิด–เปิดได้สนิท
  • งานทาสี พื้น ผนังเรียบเสมอ ไม่มีรอย

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : อย่าละเลยงานเล็ก ๆ เช่น รอยต่อซิลิโคน, ความเรียบร้อยของท่อ เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อภาพรวมและความทนทาน

ส่งมอบงานและเอกสารประกอบ 

ขั้นตอนที่ 6: ส่งมอบงานและเอกสารประกอบ

หลังตรวจรับงานเรียบร้อย ผู้รับเหมาจะทำการส่งมอบอาคารอย่างเป็นทางการ

เอกสารที่ควรได้รับ:

  • แบบ As-built Drawing (แบบที่ก่อสร้างจริง)
  • ใบรับรองจากวิศวกร (Structural / Electrical)
  • คู่มือการใช้งานระบบ (ถ้ามี)
  • ใบรับประกันงาน

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรขอเอกสารรับประกันวัสดุ เช่น ระบบไฟฟ้า, ปั๊มน้ำ, เครื่องปรับอากาศ เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต

การก่อสร้างอาคาร

ขั้นตอนที่ 7: บำรุงรักษาและตรวจเช็กตามรอบระยะ

แม้โครงการจะแล้วเสร็จ แต่การบำรุงรักษาคือกุญแจสำคัญของอาคารที่ใช้งานได้ยาวนาน

สิ่งที่ควรทำหลังส่งมอบ:

  • ตรวจเช็กระบบไฟฟ้า–น้ำทุก 6 เดือน
  • ตรวจสภาพหลังคา–ผนังรั่วซึมช่วงหน้าฝน
  • ล้างถังเก็บน้ำ และท่อระบายน้ำอย่างน้อยปีละครั้ง
  • เก็บบันทึกปัญหาต่าง ๆ ที่พบ เพื่อแจ้งผู้รับเหมาหรือซ่อมบำรุง

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ผู้รับเหมาที่ดีจะมีบริการดูแลหลังส่งมอบ 1–2 ปี ควรเลือกเจ้าเดียวจบที่ให้บริการหลังการขายจริง

สรุป ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร เข้าใจง่ายใน 7 ขั้นตอน

การสร้างอาคารไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจโครงสร้างของงานอย่างถูกต้อง ตั้งแต่
1. วางแผน2. ออกแบบ3. ขออนุญาต
4. ก่อสร้าง5. ตรวจสอบงาน6. ส่งมอบ7. บำรุงรักษา

ทุกขั้นตอนต้องอาศัย ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ และการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา หากคุณเลือกผู้ รับเหมาก่อสร้าง ที่มีทีมครบ ทั้งสถาปนิก วิศวกร โฟร์แมน และช่างมืออาชีพ งานก่อสร้างจะราบรื่นและประหยัดเวลา–งบประมาณได้มาก

แชร์บทความนี้