• รับสร้างบ้าน

    22 July 2025

    บริการรับสร้างบ้านครบวงจร จากออกแบบถึงส่งมอบ พร้อมแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย

    วางใจได้ตั้งแต่รากฐานจนเข้าอยู่ พร้อมเปรียบเทียบราคาบ้านแต่ละแบบ

    การสร้างบ้านสักหลังในปัจจุบัน ไม่ได้มีแค่การก่ออิฐฉาบปูนแล้วจบ เพราะบ้านคือ “การลงทุนในชีวิต” ที่ต้องการทั้งความงาม ความปลอดภัย และการใช้งานที่ลงตัว การใช้บริการ รับสร้างบ้านครบวงจร จึงเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์มากที่สุดสำหรับเจ้าของบ้านยุคใหม่

    บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักขั้นตอนการสร้างบ้าน ตั้งแต่การออกแบบ การขออนุญาต ไปจนถึงส่งมอบ พร้อมแบบบ้านยอดนิยม ที่เลือกได้หลากหลาย ทั้งสไตล์โมเดิร์น นอร์ดิก หรือบ้านชั้นเดียว พร้อมเปรียบเทียบ งบประมาณเบื้องต้น และแนะนำ การเลือก บริษัทรับสร้างบ้าน ที่น่าเชื่อถือ รวมถึงบริการเสริมอย่างระบบไฟฟ้า โซลาร์ และเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน

    รับสร้างบ้าน

    1. บริการ รับสร้างบ้าน ครบวงจร คืออะไร?

    คือบริการที่ดูแลให้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ โดยเจ้าของบ้านไม่ต้องประสานงานหลายฝ่ายเอง บริษัทรับสร้างบ้านจะดูแลเรื่อง:

    • การออกแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง
    • การยื่นขออนุญาตปลูกสร้าง
    • การจัดซื้อวัสดุก่อสร้าง
    • ควบคุมงานและดำเนินการก่อสร้าง
    • ตรวจรับงานก่อนส่งมอบบ้าน
    • เสริมบริการติดตั้งระบบ (ไฟฟ้า, น้ำ, โซลาร์, เฟอร์ฯ)

    ขั้นตอนสร้างบ้านแบบครบวงจร

    1. ขั้นตอนสร้างบ้านแบบครบวงจร

    1. ออกแบบบ้าน
      • เจ้าของบ้านสามารถเลือกแบบบ้านมาตรฐาน หรือจ้างออกแบบใหม่ (Custom Design)
      • ต้องมีแบบสถาปัตย์, โครงสร้าง, ไฟฟ้า, ประปา พร้อม BOQ (รายการวัสดุ)

    คำแนะนำ: ถ้าต้องการบ้านราคาประหยัด ควรเลือกแบบมาตรฐานที่ปรับรายละเอียดเล็กน้อย

    1. ยื่นขออนุญาตปลูกสร้าง
      • บริษัทรับสร้างบ้านจะดำเนินการยื่นเอกสารให้
      • ต้องยื่นที่เทศบาล/อบต. พร้อมแบบแปลน, สำเนาโฉนด, รายชื่อวิศวกรผู้ออกแบบ
      • ระยะเวลาดำเนินการ 30–60 วัน
    1. งานก่อสร้าง
      • เริ่มจากถมดิน, วางฐานราก, โครงสร้างเสา-คาน
      • ก่อฉาบ, ติดตั้งหลังคา, เดินระบบไฟฟ้า-ประปา
      • เก็บรายละเอียดภายใน เช่น ปูกระเบื้อง, ติดตั้งสุขภัณฑ์
    1. ตรวจรับบ้านและส่งมอบ
      • ตรวจเช็กคุณภาพงาน เช่น ผนังร้าว, พื้นเอียง, ระบบไฟ-น้ำ
      • ได้รับแบบ As-built และเอกสารรับประกันงาน
      • บางบริษัทให้บริการซ่อมฟรีในระยะเวลารับประกัน (เช่น 1–2 ปี)

    แบบบ้านยอดนิยม

    1. แบบบ้านยอดนิยม ที่คนไทยเลือกสร้าง

    บ้านชั้นเดียว

    • ขนาด 2–3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยประมาณ 100–150 ตร.ม.
    • เหมาะกับผู้สูงอายุและครอบครัวเล็ก
    • เข้าถึงทุกพื้นที่ สะดวกต่อการดูแล

    งบโดยประมาณ: 1.2 – 2.5 ล้านบาท

    บ้านสไตล์โมเดิร์น

    • เน้นเส้นสายเรียบง่าย หลังคาเพิงหมาแหงน
    • หน้าต่างบานใหญ่ รับแสงธรรมชาติ
    • พื้นที่ใช้สอยเริ่มต้น 120–200 ตร.ม.

    งบโดยประมาณ: 1.5 – 3.5 ล้านบาท

    บ้านสไตล์นอร์ดิก

    • รูปทรงเรขาคณิต หลังคาแหลมสูง
    • ใช้โทนสีอบอุ่น–เทา–ขาว พร้อมกระจกสูง
    • เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความมินิมอล

    งบโดยประมาณ: 2 – 4 ล้านบาท

    บ้าน 2–3 ชั้น (พร้อมพื้นที่ใช้สอยมาก)

    • เหมาะสำหรับครอบครัวใหญ่
    • แบ่งสัดส่วนชัดเจน เช่น ห้องนั่งเล่น, ออฟฟิศ, ห้องพักแขก
    • ต้องใช้โครงสร้างเสริมแรงและระบบไฟที่ซับซ้อนขึ้น

    งบโดยประมาณ: 3.5 – 7 ล้านบาท (ขึ้นอยู่กับพื้นที่ใช้สอย)

    เปรียบเทียบราคาเบื้องต้นตามประเภทบ้าน

    1. เปรียบเทียบราคาเบื้องต้นตามประเภทบ้าน

    ประเภทบ้าน

    พื้นที่ใช้สอย (ตร.ม.) ราคาเริ่มต้น (บาท)

    บ้านชั้นเดียว 2 ห้องนอน

    90–110

    1.2 – 1.8 ล้าน

    บ้านชั้นเดียว 3 ห้องนอน

    120–140

    1.6 – 2.3 ล้าน

    บ้านโมเดิร์น 2 ชั้น

    150–200

    2.5 – 4 ล้าน

    บ้าน 3 ชั้น (พร้อมออฟฟิศ/ดาดฟ้า)

    200–300

    4 – 7 ล้าน

    ราคาขึ้นอยู่กับวัสดุ, ระบบภายใน และระดับงานตกแต่ง

    เลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไรให้มั่นใจ?

    1. เลือกบริษัทรับสร้างบ้านอย่างไรให้มั่นใจ?

    คุณสมบัติของบริษัทรับสร้างบ้านที่ควรเลือก

    • มีผลงานจริง (พร้อมรีวิว, ภาพก่อน–หลัง)
    • มีสัญญาชัดเจนเรื่องงวดงาน–งวดเงิน
    • ให้บริการครบทั้งออกแบบ–ก่อสร้าง–ระบบ
    • มีทีมวิศวกรควบคุมงาน
    • มีรับประกันผลงาน (1–5 ปี ขึ้นอยู่กับบริษัท)

    เอกสารประกอบการตัดสินใจ

    • แบบบ้านและรายการวัสดุ (BOQ)
    • สัญญาจ้างงาน (ชัดเจนเรื่องงวดเงิน–ระยะเวลา)
    • ใบอนุญาตของวิศวกรและสถาปนิก

    บริการเสริมที่ตอบโจทย์เจ้าของบ้านยุคใหม่

    1. บริการเสริมที่ตอบโจทย์เจ้าของบ้านยุคใหม่

    บริษัทรับสร้างบ้านที่ให้บริการครบวงจร มักมีบริการเสริมเหล่านี้

    ระบบไฟฟ้า – Smart Home

    • เดินสายไฟ 3 เฟสสำหรับบ้านหลังใหญ่
    • ติดตั้งสวิตช์ไฟอัจฉริยะ
    • ระบบกันขโมย, กล้องวงจรปิด

    ระบบโซลาร์เซลล์

    • เพื่อลดค่าไฟฟ้าระยะยาว
    • มีให้เลือกแบบ on-grid, hybrid
    • รับประกัน 10–25 ปี

    ระบบปรับอากาศ

    • วางท่อแอร์ซ่อนก่อนปิดฝ้า
    • วางระบบ VRF สำหรับบ้านหลังใหญ่
    • จัดวางตำแหน่งไม่ให้ชนโครงสร้าง

    เฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน

    • วางแบบร่วมกับผังห้องตั้งแต่แรก
    • ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า ดูเรียบร้อย
    • สไตล์เข้าชุดกับบ้าน เช่น โมเดิร์น/นอร์ดิก

    สรุป รับสร้างบ้าน ครบวงจร เหมาะกับใคร?

    เหมาะกับผู้ที่… เพราะ…
    ไม่มีความรู้เรื่องก่อสร้าง บริษัทดูแลทุกขั้นตอนให้
    ไม่อยากประสานงานหลายฝ่าย จบในที่เดียวทั้งแบบก่อสร้าง ระบบ
    อยากเห็นแบบก่อนตัดสินใจ มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย
    ต้องการบ้านที่เข้าอยู่ได้ทันที มีบริการระบบครบ + เฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่

    สรุปภาพรวม

    • บริการรับสร้างบ้าน คือทางเลือกที่สะดวก ครบ และคุ้ม
    • สามารถเลือกแบบบ้านหรือออกแบบใหม่ให้เข้ากับงบ
    • เลือกบริษัทรับเหมา ที่มีผลงานชัดเจน และสัญญารัดกุม
    • มีบริการเสริมครบ ทั้งโซลาร์ แอร์ เฟอร์นิเจอร์
    • งบประมาณบ้าน 1–3 ชั้น เริ่มต้นตั้งแต่ 1.2 – 7 ล้านบาท

    ติดต่อบริษัท Plantoprompt

  • ธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก

    21 July 2025

    สารบัญ

    เริ่มต้นธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก ต้องรู้อะไรบ้าง?

    วางแผนให้พร้อมผลิต ตั้งแต่ที่ดิน ระบบ ไปจนถึงงบประมาณ

    ในยุคที่ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถสร้างแบรนด์ของตนเองได้ง่ายกว่าที่เคย ไม่ว่าจะเป็นสินค้ากลุ่มอาหาร เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์สุขภาพ การมี ธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก เป็นของตัวเอง จึงกลายเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่ต้องการควบคุมการผลิตด้วยตนเอง

    อย่างไรก็ตาม การเริ่มต้น ธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก นั้นมีรายละเอียดที่ต้องรู้ตั้งแต่ขั้นตอนกฎหมาย ไปจนถึงการวางแผนระบบผลิต บทความนี้จึงรวบรวมเนื้อหาสำคัญที่เจ้าของธุรกิจควรศึกษา เพื่อให้คุณวางแผนตั้งแต่ศูนย์จนเริ่มผลิตได้จริงอย่างมั่นใจ

    โรงงานขนาดเล็กคืออะไร?

    1. โรงงานขนาดเล็กคืออะไร?

    โรงงานขนาดเล็ก คือ สถานที่ผลิตสินค้าซึ่งมีขนาดการผลิตไม่ใหญ่มาก มักใช้พื้นที่ไม่เกิน 500 ตารางเมตร มีพนักงานจำนวนจำกัด และเน้นผลิตเฉพาะสินค้าที่ไม่ต้องใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่หรือระบบซับซ้อน เช่น

    ประเภทธุรกิจโรงงานขนาดเล็กที่นิยม

    • โรงงานผลิตอาหาร เช่น น้ำพริก, ขนมอบ, เครื่องดื่ม, ซอส
    • โรงงานผลิตเครื่องสำอาง เช่น ครีมบำรุง, สบู่, ลิปบาล์ม
    • โรงงานแบบ OEM (รับจ้างผลิต) ในหมวดอาหารเสริม เครื่องใช้ส่วนตัว
    • ผลิตภัณฑ์ชุมชนหรือออร์แกนิก เช่น สมุนไพร, ของใช้จากธรรมชาติ

    จุดเด่นของโรงงานขนาดเล็ก คือ การลงทุนเริ่มต้นที่ไม่สูงมาก ควบคุมคุณภาพง่าย และสามารถเริ่มจากพื้นที่เล็ก ๆ หรือดัดแปลงบ้านหรือโกดังเก่าได้

    ขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก

    1. ขั้นตอนเริ่มต้นธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก

    ขั้นตอนที่ 1 : เลือกที่ดินหรือสถานที่

    • ต้องดูว่าอยู่ในพื้นที่ที่กฎหมายอนุญาตให้ตั้งโรงงานได้หรือไม่ (อิงผังเมือง)
    • พิจารณาการเข้าถึงถนน, ไฟฟ้า 3 เฟส, ระบบน้ำประปา
    • ควรเผื่อพื้นที่สำหรับจัดเก็บสินค้าและขยายกำลังผลิตในอนาคต

    หากเริ่มจากโรงงานเล็กมาก อาจใช้พื้นที่ไม่เกิน 100 ตร.ม. แต่ควรเผื่อเงื่อนไขขยายได้ง่าย

    ขั้นตอนที่ 2 : ขอใบอนุญาตประกอบกิจการ รง.4

    โรงงานที่มีการใช้เครื่องจักร หรือมีการผลิตสินค้าเพื่อจำหน่าย ต้องขอ ใบอนุญาต รง.4 (โรงงานประเภทที่ 2) จากกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัด

    เอกสารที่ใช้

    • แบบฟอร์มคำขอ รง.4
    • สำเนาเอกสารสิทธิ์ที่ดิน
    • แบบแปลนอาคาร
    • แผนผังไลน์การผลิต
    • รายละเอียดเครื่องจักร–วัตถุดิบ

    โรงงานผลิตอาหาร/เครื่องสำอาง ยังต้องยื่นขอเลข อย. ควบคู่ด้วย

    ขั้นตอนที่ 3 : ออกแบบ Layout ให้ถูกต้องตามมาตรฐาน

    การวางแผนผังภายในโรงงาน (Factory Layout) เป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะถ้าโรงงานของคุณต้องการขอ GMP หรือ HACCP

    สิ่งที่ต้องพิจารณา

    • แยกโซนสะอาด–ไม่สะอาด (Raw / Processing / Packing)
    • มีทางเดินเข้า–ออกสำหรับวัตถุดิบและสินค้าแยกกัน
    • พื้นเรียบ ทำความสะอาดง่าย
    • มีห้องล้างมือ–ฆ่าเชื้อก่อนเข้าสู่พื้นที่ผลิต

    สามารถปรึกษาวิศวกรหรือบริษัทรับเหมาที่เชี่ยวชาญโรงงานอาหารหรือเครื่องสำอางได้ เพื่อออกแบบให้ผ่านมาตรฐานเร็วขึ้น

    งบประมาณเริ่มต้น

    1. งบประมาณเริ่มต้น : ตัวเลขประมาณการสำหรับโรงงานขนาดเล็ก

    รายการ

    ประมาณการ (บาท)

    ค่าก่อสร้างโรงงาน (100-300 ตร.ม.)

    500,000 – 2,000,000

    ค่าเครื่องจักรพื้นฐาน

    200,000 – 1,000,000

    ค่าออกแบบ + ขออนุญาต

    50,000 – 150,000

    ระบบไฟฟ้า 3 เฟส + ระบบน้ำ

    100,000 – 300,000

    ค่าวัสดุผลิตเริ่มต้น

    50,000 – 200,000

    งบประมาณรวมขั้นต่ำ

    ประมาณ 800,000 – 3,500,000 บาท

    หมายเหตุ: ถ้าเริ่มจากขนาดเล็กจริง ๆ และใช้เครื่องมือกึ่งอัตโนมัติ งบประมาณอาจต่ำกว่า 1 ล้านบาทได้

    ระบบภายในโรงงาน

    1. ระบบภายในโรงงานที่ไม่ควรมองข้าม

    ระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม

    • ควรเป็นระบบไฟฟ้า 3 เฟส
    • มีตู้ MDB และสายดินอย่างปลอดภัย
    • สำรองไฟ (ถ้าผลิตต่อเนื่องหรือมีเครื่องแพง)

    ระบบสุขาภิบาล–ประปา

    • แยกน้ำใช้–น้ำเสีย
    • ติดตั้งถังบำบัด–ระบบระบายน้ำ
    • จุดล้างมือ พร้อมระบบป้องกันการปนเปื้อน

    ระบบระบายอากาศ–ควบคุมอุณหภูมิ

    • พัดลมระบายอากาศ, Exhaust, ระบบ Positive Pressure
    • ห้องแอร์สำหรับโซนบรรจุ (ในกรณีต้องการ GMP)

    ระบบกล้องวงจรปิด / บันทึกการผลิต

    • สำคัญหากคุณต้องตรวจสอบย้อนหลัง / ใช้เป็นหลักฐานขอ มอก. หรือ อย.

    บริษัทรับเหมา สำหรับโรงงานขนาดเล็ก

    1. แนะนำการเลือก “บริษัทรับเหมา” สำหรับโรงงานขนาดเล็ก

    คุณสมบัติของผู้รับเหมาที่เหมาะกับโรงงานขนาดเล็ก

    • มีประสบการณ์งานโรงงานหรือโกดังมาก่อน
    • เข้าใจมาตรฐาน GMP / ระบบ M&E
    • ให้บริการครบตั้งแต่เขียนแบบ – ขออนุญาต – ก่อสร้าง
    • ทีมวิศวกรควบคุมงาน + ช่างระบบในบริษัทเดียวกัน

    บริษัทอย่างเช่น Plantoprompt ที่เชี่ยวชาญงานโรงงานขนาดเล็กในภาคเหนือ ก็เป็นตัวอย่างของผู้รับเหมาครบวงจร

    1. Checklist เตรียมความพร้อมก่อนสร้างโรงงาน

    รายการ

    ☐ รายการสินค้า / สูตรผลิต
    ☐ แผนผังพื้นที่โรงงาน
    ☐ งบประมาณเริ่มต้น
    ☐ ผู้รับเหมาหรือบริษัทที่ปรึกษา
    ☐ ขออนุญาต รง.4 / GMP / อย.
    ☐ วางแผนระบบภายใน (ไฟฟ้า–น้ำ–อากาศ)
    ☐ อุปกรณ์เครื่องจักรพื้นฐาน
    ☐ ระบบความปลอดภัย / กล้องวงจรปิด
    ☐ บุคลากรเบื้องต้น (ฝ่ายผลิต / ควบคุมคุณภาพ)

     

    สรุป ธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก เริ่มต้นได้จริง หากวางแผนเป็นระบบ

    การเริ่มต้น ธุรกิจโรงงานขนาดเล็ก ไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากคุณมีการวางแผนอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การเลือกทำเล ออกแบบโรงงาน ให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ขออนุญาตให้ถูกต้อง และเลือกระบบภายในที่เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์ของคุณ

    • เริ่มจาก “เล็กแต่ชัดเจน” ดีกว่าเริ่มจากใหญ่แต่ไม่วางแผน
    • ทำ Layout ให้รองรับ GMP และการขยายสายการผลิต
    • เลือกผู้รับเหมาที่เข้าใจธุรกิจโรงงานขนาดเล็กโดยเฉพาะ
  • สร้างตึก 3 ชั้น ราคา

    20 July 2025

    สารบัญ

    สร้างตึก 3 ชั้น ราคาเท่าไหร่ในปี 2568?

    สรุปงบประมาณจริง พร้อมแบบตัวอย่าง และ Checklist เตรียมงบก่อนลงมือสร้าง

    สำหรับผู้ที่วางแผนลงทุนสร้างตึก 3 ชั้น ไม่ว่าจะเพื่ออยู่อาศัย เปิดร้าน ทำโฮมออฟฟิศ หรือปล่อยเช่า สิ่งแรกที่ต้องรู้คือ งบประมาณในการก่อสร้าง ซึ่งในปี 2568 นี้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลต่อราคา ทั้งวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง ระบบภายในอาคาร และรูปแบบการใช้งาน

    คำถามยอดฮิตที่หลายคนค้นหาใน Google เช่น

    “สร้างตึก 3 ชั้น ราคา 2568 เท่าไหร่?”

    คำตอบไม่ได้มีเพียงตัวเลขเดียว เพราะราคาขึ้นอยู่กับ “ขนาด”, “สเปควัสดุ”, และ “รูปแบบอาคาร” ที่คุณเลือกใช้

    บทความนี้จะพาคุณวิเคราะห์แบบละเอียด

    • ราคาต่อ ตร.ม. ในปี 2568
    • เปรียบเทียบ สร้างแบบเปล่า vs ตกแต่งพร้อมอยู่
    • แบบตัวอย่างอาคาร 3 ชั้นยอดนิยม
    • ปัจจัยที่ทำให้ราคาบานปลาย
    • แจก Checklist เตรียมงบก่อนสร้างจริง

    ราคาก่อสร้างตึก 3 ชั้น

    ราคาก่อสร้างตึก 3 ชั้น ปี 2568 : ค่าเฉลี่ยต่อตารางเมตร

    ในปี 2568 ราคาวัสดุก่อสร้างและค่าแรงยังคงผันผวน แต่สามารถประเมิน “ราคากลาง” ได้ดังนี้ (โดยอิงจากมาตรฐานกรมโยธาธิการและข้อมูลผู้รับเหมารายใหญ่)

    ประเภทงาน

    ราคาประมาณ (บาท/ตร.ม.)

    โครงสร้างเปล่า (โครงสร้าง + ก่อฉาบ + หลังคา)

    8,500 – 11,000

    แบบพร้อมตกแต่งภายใน (วัสดุมาตรฐานทั่วไป)

    13,000 – 18,000

    แบบพรีเมียม / เชิงพาณิชย์ (วัสดุดี – งานระบบครบ)

    18,000 – 25,000

    ตัวอย่างคำนวณเบื้องต้น

    ตึก 3 ชั้น ขนาด 4×12 เมตร (144 ตร.ม. ต่อชั้น) รวม 432 ตร.ม.

    • โครงสร้างเปล่า: 432 x 10,000 = 4,320,000 บาท
    • พร้อมตกแต่งมาตรฐาน: 432 x 15,000 = 6,480,000 บาท

    เปรียบเทียบ : สร้างตึกเปล่า vs ตกแต่งพร้อมอยู่

    รายละเอียด

    แบบโครงสร้างเปล่า แบบตกแต่งพร้อมอยู่

    โครงสร้างอาคาร

    พื้น / ผนัง / ฝ้า

    ไฟฟ้า–ประปา

    เฉพาะท่อร้อยสาย

    ติดตั้งครบพร้อมใช้งาน

    สุขภัณฑ์ / ครัว

    ระบบ CCTV / อินเตอร์เน็ต

    เพิ่มได้ตามความต้องการ

    งบโดยรวม

    ประหยัดที่สุด

    สูงกว่าแต่พร้อมใช้ทันที

    เหมาะกับใคร นักลงทุน–ผู้เช่าเองตกแต่ง เจ้าของใช้เอง / ปล่อยเช่า

    แบบตึก 3 ชั้นยอดนิยมในปี 2568

    แบบตึก 3 ชั้นยอดนิยมในปี 2568

    1. อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น (ตึกแถว)
    • หน้ากว้าง 4-5 เมตร ลึก 12-15 เมตร
    • ชั้นล่าง: ร้านค้า / ชั้นบน: ที่พักหรือเก็บของ
    • ปล่อยเช่ารายเดือนได้

    ข้อดี : ทำเงินได้ทันที, ตอบโจทย์ย่านชุมชน

    งบประมาณโดยเฉลี่ย : 4.5 – 7 ล้านบาท

    1. โฮมออฟฟิศ (Home Office)

    • ออกแบบร่วมสมัย หน้ากว้าง 6 เมตร+
    • ชั้น 1 : โถงรับลูกค้า / ชั้น 2–3: ออฟฟิศ – ที่พัก
    • เน้นความโปร่ง โล่ง พร้อมตกแต่งระบบสำนักงาน

    ข้อดี: เหมาะสำหรับเจ้าของกิจการ

    งบประมาณโดยเฉลี่ย: 6 – 9 ล้านบาท

    1. ตึกให้เช่าแบบห้องพัก (Apartment Mini)

    • แบ่งห้องละ 18–24 ตร.ม. / ชั้นละ 3–4 ห้อง
    • ระบบไฟ-น้ำแยกห้อง / มียูนิตเช่าเยอะ
    • มีระบบรักษาความปลอดภัย–คีย์การ์ด

    ข้อดี : รายได้สม่ำเสมอระยะยาว

    งบประมาณโดยเฉลี่ย : 7 – 10 ล้านบาท

    ปัจจัยที่ทำให้ “ราคาก่อสร้างตึก 3 ชั้น” บานปลาย

    ปัจจัยที่ทำให้ “ราคาก่อสร้างตึก 3 ชั้น” บานปลาย

    • การเปลี่ยนแบบกลางคัน

      • เปลี่ยนตำแหน่งห้องน้ำ / บันได / วัสดุ
      • ส่งผลให้ต้องรื้อถอนบางส่วนหรือปรับโครงสร้าง
    • ระบบไฟฟ้าและระบบพิเศษ

      • เช่น ตู้ MDB, ระบบสำรองไฟ, อินเทอร์เน็ต, CCTV
      • ยิ่งเป็นตึกเชิงพาณิชย์ ยิ่งต้องมีระบบที่แพงขึ้น
    • งานตกแต่งภายในเกินมาตรฐาน

      • พื้นไม้จริง, ผนังลายหิน, ระบบ Smart Home
    • เงื่อนไขพื้นที่ (ดินอ่อน, ถนนแคบ, ต้องเจาะเสาเข็มพิเศษ)

      • เสาเข็มเจาะ แพงกว่าเสาเข็มตอก 20–30%

    Checklist เตรียมงบประมาณก่อนสร้างตึก 3 ชั้น

    รายการ

    ประเมินงบ (บาท) หมายเหตุ

    ค่าก่อสร้างโครงสร้าง

    8,500–11,000/ตร.ม.

    ขึ้นอยู่กับวัสดุและพื้นที่

    ค่าระบบไฟฟ้า–ประปา

    500–1,000/ตร.ม.

    รวมถึงตู้ไฟ, ท่อน้ำ ฯลฯ

    ค่าตกแต่งภายใน

    3,000–7,000/ตร.ม.

    พื้น, ฝ้า, สุขภัณฑ์, บิวท์อิน

    ค่าออกแบบ + ขออนุญาต

    50,000–200,000

    แล้วแต่ความซับซ้อน

    ค่าระบบพิเศษ (CCTV, Smart)

    50,000–200,000

    แล้วแต่ฟังก์ชัน

    ค่าภาษี/ใบอนุญาต

    10,000–30,000

    ค่าใช้จ่ายกับหน่วยงานรัฐ

    สำรองฉุกเฉิน (10%) ขึ้นกับงบหลัก

    ใช้เผื่องานนอกแบบ

     

    สรุป สร้างตึก 3 ชั้นในปี 2568 ควรวางแผนแบบไหน?

    หากคุณกำลังวางแผนจะสร้างตึก 3 ชั้นในปีนี้ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ดูราคาเท่าไรต่อตารางเมตร แต่ต้อง มองทั้งระบบตั้งแต่แบบ โครงสร้าง ระบบ ไปจนถึงตกแต่ง

    • ถ้า “ต้องการประหยัด” – สร้างแบบเปล่า แล้วค่อยทยอยตกแต่ง
    • ถ้า “อยากปล่อยเช่าเร็ว” – เลือกแบบพร้อมตกแต่ง มีระบบครบ
    • ถ้า “ใช้เพื่อธุรกิจ” – วางแผนระบบไฟฟ้า–อินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ต้น

    สนใจขอใบเสนอราคา

    หากคุณอยากทราบงบจริงจาก ผู้รับเหมา สามารถเตรียมข้อมูลดังนี้:

    • ขนาดที่ดิน / พื้นที่ใช้สอย
    • รูปแบบอาคาร (พาณิชย์, โฮมออฟฟิศ ฯลฯ)
    • งบประมาณตั้งต้น
    • ความต้องการพิเศษ
  • ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร

    19 July 2025

    การก่อสร้างอาคาร ไม่ว่าจะเป็นบ้านพัก อาคารพาณิชย์ โกดัง หรือโรงงานอุตสาหกรรม ล้วนต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจ และการวางแผนอย่างเป็นระบบ หากคุณเป็นเจ้าของโครงการ หรือแม้แต่ผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านหลังแรก คำว่า ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร อาจฟังดูซับซ้อน แต่ความจริงแล้วสามารถเข้าใจได้ง่ายภายใน 7 ขั้นตอนหลัก ที่บทความนี้จะอธิบายให้ชัดเจน

    เราได้สรุปเนื้อหาจากประสบการณ์ของ ผู้เชี่ยวชาญด้านการก่อสร้าง เพื่อให้คุณเข้าใจโครงสร้างการทำงาน ตั้งแต่เริ่มจนส่งมอบ พร้อมคำแนะนำในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้โครงการของคุณราบรื่น มีประสิทธิภาพ และจบในงบประมาณ

    เริ่มต้นก่อสร้างอาคาร

    ขั้นตอนที่ 1 : เตรียมตัว – วางแผนโครงการให้ชัดเจน

    ก่อนการก่อสร้างใด ๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การวางแผน ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดทั้งแบบอาคาร งบประมาณ ระยะเวลา และผลลัพธ์ของงานทั้งหมด

    สิ่งที่ควรวางแผน

    • วัตถุประสงค์: ต้องการสร้างอาคารเพื่ออะไร? (อยู่อาศัย, พาณิชย์, อุตสาหกรรม)
    • ขนาดพื้นที่และที่ดิน: ขนาด, รูปร่าง, ทำเล, ความลาดชัน
    • งบประมาณโดยประมาณ: เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อขนาดและวัสดุ
    • ความต้องการพิเศษ: เช่น ต้องการพลังงานแสงอาทิตย์, ห้องเย็น, พื้นอีพ็อกซี่ ฯลฯ

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : เจ้าของโครงการควรจัดทำ Check List ความต้องการก่อนคุยกับผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมา เพื่อให้งานออกแบบตอบโจทย์จริง ไม่ต้องแก้แบบหลายรอบ

    ออกแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้างอาคาร

    ขั้นตอนที่ 2 : ออกแบบสถาปัตยกรรมและโครงสร้าง

    เมื่อมีข้อมูลเบื้องต้นแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการออกแบบ ซึ่งควรดำเนินการโดย สถาปนิก และ วิศวกรโยธา ที่มีใบประกอบวิชาชีพ

    แบบที่ต้องมี

    • แบบสถาปัตยกรรม (แปลน, รูปด้าน, รูปตัด, 3D ถ้ามี)
    • แบบโครงสร้าง (เสา, คาน, ฐานราก)
    • แบบไฟฟ้า, ประปา, สุขาภิบาล
    • BOQ (รายการวัสดุและปริมาณงาน)

    สิ่งสำคัญ

    • ต้องสอดคล้องกับ กฎหมายควบคุมอาคาร (เช่น ระยะร่น, ความสูง)
    • รองรับฟังก์ชันใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน
    • ง่ายต่อการก่อสร้าง ไม่ซับซ้อนเกินความจำเป็น

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : การใช้ภาพ 3D ร่วมกับแบบ 2D ช่วยให้เจ้าของโครงการเห็นภาพชัด ลดปัญหาความเข้าใจคลาดเคลื่อน

    ขออนุญาตก่อสร้างอาคาร

    ขั้นตอนที่ 3 : ขออนุญาตก่อสร้าง

    หลังจากได้แบบที่สมบูรณ์แล้ว จำเป็นต้องขออนุญาตจากหน่วยงานราชการในท้องที่ เช่น เทศบาล หรืออบต. ก่อนเริ่มก่อสร้าง

    เอกสารที่ต้องเตรียม

    • แบบแปลนพร้อมเซ็นโดยสถาปนิก/วิศวกร
    • หนังสือรับรองจากวิศวกร
    • สำเนาโฉนดที่ดิน
    • แบบฟอร์มคำขอ (ข.1)
    • เอกสารเจ้าของโครงการ

    ระยะเวลาดำเนินการ : 30–60 วัน ขึ้นอยู่กับเขตพื้นที่และความครบถ้วนของเอกสาร

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรตรวจสอบว่าแบบที่ยื่นได้รับการออกแบบตามข้อกำหนดผังเมืองและอาคารในเขตพื้นที่นั้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้เสียเวลาในการแก้ไขภายหลัง

    เริ่มงานก่อสร้าง

    ขั้นตอนที่ 4 : เริ่มงานก่อสร้าง (Construction Phase)

    เมื่อได้รับใบอนุญาต จึงสามารถเริ่มงานก่อสร้างได้ โดยมีขั้นตอนย่อยที่ชัดเจน:

    1. เตรียมพื้นที่ก่อสร้าง

    • ปรับระดับดิน ถมดิน ตีผัง วางแนวรั้วชั่วคราว
    • วางแนวเขตอาคาร และจุดฐานราก
    • วางท่อน้ำ ท่อสายไฟใต้ดินล่วงหน้า

    2. โครงสร้าง (Structural Work)

    • ฐานราก, เสา, คาน, พื้น, หลังคา
    • ตรวจสอบระดับ, แนวดิ่ง, วัสดุทุกขั้นตอน

    3. งานสถาปัตย์

    • ผนัง, พื้น, ฝ้า, ประตู–หน้าต่าง, สี
    • งานปูพื้น, งานตกแต่งภายนอก–ภายใน

    4. ระบบ (M&E Work)

    • ระบบไฟฟ้า, ประปา, สุขาภิบาล
    • ระบบระบายอากาศ, CCTV, กันฟ้าผ่า ฯลฯ

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรมีผู้ควบคุมงานประจำไซต์ เพื่อรายงานความคืบหน้า และตรวจสอบมาตรฐานทุกวัน

    ตรวจสอบความเรียบร้อยอาคาร

    ขั้นตอนที่ 5: ตรวจสอบความเรียบร้อย (QC & Punch List)

    เมื่อการก่อสร้างใกล้เสร็จ ควรมีการตรวจสอบคุณภาพงานในแต่ละจุด เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นไปตามแบบและไม่มีข้อบกพร่อง

    รายการที่ควรตรวจสอบ

    • โครงสร้างมีรอยแตกร้าวหรือไม่
    • งานระบบไฟฟ้า–น้ำใช้การได้จริง
    • ประตู หน้าต่าง ปิด–เปิดได้สนิท
    • งานทาสี พื้น ผนังเรียบเสมอ ไม่มีรอย

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : อย่าละเลยงานเล็ก ๆ เช่น รอยต่อซิลิโคน, ความเรียบร้อยของท่อ เพราะสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อภาพรวมและความทนทาน

    ส่งมอบงานและเอกสารประกอบ 

    ขั้นตอนที่ 6: ส่งมอบงานและเอกสารประกอบ

    หลังตรวจรับงานเรียบร้อย ผู้รับเหมาจะทำการส่งมอบอาคารอย่างเป็นทางการ

    เอกสารที่ควรได้รับ:

    • แบบ As-built Drawing (แบบที่ก่อสร้างจริง)
    • ใบรับรองจากวิศวกร (Structural / Electrical)
    • คู่มือการใช้งานระบบ (ถ้ามี)
    • ใบรับประกันงาน

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ควรขอเอกสารรับประกันวัสดุ เช่น ระบบไฟฟ้า, ปั๊มน้ำ, เครื่องปรับอากาศ เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต

    การก่อสร้างอาคาร

    ขั้นตอนที่ 7: บำรุงรักษาและตรวจเช็กตามรอบระยะ

    แม้โครงการจะแล้วเสร็จ แต่การบำรุงรักษาคือกุญแจสำคัญของอาคารที่ใช้งานได้ยาวนาน

    สิ่งที่ควรทำหลังส่งมอบ:

    • ตรวจเช็กระบบไฟฟ้า–น้ำทุก 6 เดือน
    • ตรวจสภาพหลังคา–ผนังรั่วซึมช่วงหน้าฝน
    • ล้างถังเก็บน้ำ และท่อระบายน้ำอย่างน้อยปีละครั้ง
    • เก็บบันทึกปัญหาต่าง ๆ ที่พบ เพื่อแจ้งผู้รับเหมาหรือซ่อมบำรุง

    คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ : ผู้รับเหมาที่ดีจะมีบริการดูแลหลังส่งมอบ 1–2 ปี ควรเลือกเจ้าเดียวจบที่ให้บริการหลังการขายจริง

    สรุป ขั้นตอนการก่อสร้างอาคาร เข้าใจง่ายใน 7 ขั้นตอน

    การสร้างอาคารไม่ใช่เรื่องยาก หากเข้าใจโครงสร้างของงานอย่างถูกต้อง ตั้งแต่
    1. วางแผน2. ออกแบบ3. ขออนุญาต
    4. ก่อสร้าง5. ตรวจสอบงาน6. ส่งมอบ7. บำรุงรักษา

    ทุกขั้นตอนต้องอาศัย ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้ใจได้ และการสื่อสารที่ตรงไปตรงมา หากคุณเลือกผู้ รับเหมาก่อสร้าง ที่มีทีมครบ ทั้งสถาปนิก วิศวกร โฟร์แมน และช่างมืออาชีพ งานก่อสร้างจะราบรื่นและประหยัดเวลา–งบประมาณได้มาก

  • รับเหมาก่อสร้าง ลำพูน

    18 July 2025

    ในจังหวัดลำพูน ซึ่งมีทั้งพื้นที่อยู่อาศัยและเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ เช่น นิคมอุตสาหกรรมลำพูน การเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีความเข้าใจในสภาพพื้นที่และมีประสบการณ์กับงานเฉพาะทาง ถือเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้งานก่อสร้างดำเนินไปได้ราบรื่นและจบครบในที่เดียว

    บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ บริษัท Plantoprompt Co., Ltd. หนึ่งใน บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ลำพูน ที่ตอบโจทย์ทั้งโครงการโรงงาน บ้านจัดสรร อาคารพาณิชย์ และระบบวิศวกรรมครบชุด พร้อมข้อแนะนำก่อนขอใบเสนอราคา และเคล็ดลับเปรียบเทียบผู้รับเหมาหลายรายอย่างมืออาชีพ

    รับเหมา ลำพูน

    บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ลำพูน ที่ตอบโจทย์ทั้ง “งานสร้าง-งานระบบ” จบในทีมเดียว

    Plantoprompt Co., Ltd. คือ บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มีฐานการทำงานในพื้นที่ภาคเหนือ และมีผลงานจริงใน จังหวัดลำพูน ทั้งในเขตนิคมอุตสาหกรรมและโครงการที่อยู่อาศัย

    จุดแข็งที่แตกต่าง

    • ให้บริการทั้งงานโครงสร้างและงานระบบ (M&E) ในทีมเดียว
    • มีวิศวกรโยธา–ไฟฟ้า–เครื่องกล–สุขาภิบาล ประจำโครงการ
    • รับออกแบบ, ขออนุญาต, ก่อสร้าง และติดตั้งระบบ แบบครบวงจร
    • มีประสบการณ์กับโรงงานอุตสาหกรรมจริง เช่น อาหาร, อิเล็กทรอนิกส์, แพ็คสินค้า

    Plantoprompt รับเหมาก่อสร้าง ลำพูน

    ประเภทงานที่บริษัท Plantoprompt ให้บริการในลำพูน

    เพื่อความสะดวกในการพิจารณา คุณสามารถดูผลงานของบริษัทในลำพูน แยกตามประเภทงานดังนี้:

    1. งานโครงสร้างอาคาร (Structural Work)

    • สร้างโรงงานอุตสาหกรรม โกดังสินค้า โครงสร้างเหล็ก–คอนกรีต
    • อาคารสำนักงาน โฮมออฟฟิศ 2–3 ชั้น
    • บ้านพักอาศัยขนาดเล็ก–กลาง–ใหญ่
    • อาคารพาณิชย์แบบ Modern Loft / Minimal Style
    1. งานระบบไฟฟ้าโรงงานและที่พักอาศัย (Electrical Systems)

    • ออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงต่ำ–แรงสูง
    • วางตู้เมนไฟฟ้า (MDB), DB, MCC, และสายไฟฟ้าสำหรับเครื่องจักร
    • ระบบสำรองไฟ (Generator, UPS)
    • เดินระบบไฟแสงสว่างภายใน–ภายนอกอาคาร

    ทำไมระบบไฟฟ้าต้องใช้ทีมเฉพาะทาง? เพราะต้องมีการคำนวณโหลด, เลือกเบรกเกอร์ที่เหมาะสม, วางสายไฟให้ปลอดภัย และต้องผ่านการตรวจสอบจากวิศวกรไฟฟ้าที่มีใบประกอบวิชาชีพ

    1. งานระบบน้ำ สุขาภิบาล และระบายน้ำ (Plumbing & Sanitary)

    • วางระบบท่อน้ำดี–น้ำเสีย พร้อมระบบกรอง
    • ถังบำบัดน้ำเสีย, ถังเก็บน้ำ, ปั๊มน้ำ
    • ระบบสุขาภิบาลในบ้าน และโรงงาน
    • ระบบระบายน้ำภายนอกอาคาร เพื่อป้องกันน้ำท่วม

    งานระบบน้ำในโรงงานไม่เหมือนในบ้านทั่วไป เพราะต้องแยกประเภทน้ำ (เช่น น้ำดี–น้ำใช้ในกระบวนการ–น้ำเสีย) อย่างชัดเจน

    Plantoprompt มีวิศวกรสุขาภิบาลดูแลโดยตรง เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรม

    1. งานรีโนเวท–ต่อเติมอาคารเก่า (Renovation)

    • ต่อเติมบ้าน–สำนักงาน–ร้านค้า
    • รีโนเวทโรงงานเก่าให้ได้มาตรฐาน GMP / ISO
    • แก้ปัญหาโครงสร้างทรุด, น้ำรั่ว, ไฟฟ้าลัดวงจร
    • ปรับโฉมอาคารให้ดูใหม่ ใช้ประโยชน์ได้เต็มที่

    ผู้รับเหมาก่อสร้าง ลำพูน

    ข้อดีของการเลือก Plantoprompt เป็นผู้รับเหมาก่อสร้างในลำพูน

    • มีทีม วิศวกรครบในบริษัทเดียว ไม่ต้องแยกจ้างช่างระบบต่างหาก
    • เข้าใจสภาพพื้นที่ลำพูนเป็นอย่างดี เช่น ดินอ่อน, เขตน้ำท่วม, แนวก่อสร้างที่ปลอดภัย
    • ทำงานตามระบบ ตั้งแต่การประเมินหน้างาน ออกแบบ ไปจนถึงส่งมอบ
    • อัปเดตงานเป็นระยะ พร้อมเอกสารตรวจรับ และประกันหลังงาน
    • ให้คำแนะนำเรื่องการวางแผนงบประมาณ ช่วยลดต้นทุนโดยไม่ลดคุณภาพ

    ก่อสร้าง ลำพูน

    ขั้นตอนการขอใบเสนอราคาจาก Plantoprompt

    1. เตรียมข้อมูลเบื้องต้น
      • ขนาดพื้นที่
      • รูปแบบงาน (บ้าน, โรงงาน, รีโนเวท)
      • งบประมาณโดยประมาณ
      • ความต้องการพิเศษ เช่น ระบบไฟสำรอง, พื้น epoxy ฯลฯ 
    2. ติดต่อทีมงาน 
    3. เข้าดูหน้างานจริง / วิดีโอคอลสำรวจเบื้องต้น 
      • เพื่อลดการประเมินผิดพลาด
      • ทำให้เสนอราคาได้แม่นยำ และไม่บานปลายภายหลัง 
    4. รับใบเสนอราคาพร้อม BOQ รายการวัสดุ 
      • แสดงค่าแรง–ค่าวัสดุแยกชัดเจน
      • มีแบบร่าง 2D/3D เบื้องต้นประกอบ (หากต้องการ) 

    เคล็ดลับ: วิธีเปรียบเทียบผู้รับเหมาหลายเจ้าอย่างมืออาชีพ

    หัวข้อ

    สิ่งที่ควรดู

    ราคา ดูว่า BOQ มีรายละเอียดชัดหรือไม่ ไม่ใช่ราคาก้อนเดียว
    ทีมงาน มีวิศวกรประจำไหม? หรือจ้างช่างรายวัน?
    ผลงาน มีตัวอย่างงานจริงในลำพูนหรือไม่?
    การรับประกัน ระบุในสัญญาชัดเจนหรือไม่? เช่น รับประกันโครงสร้าง 5 ปี
    ความน่าเชื่อถือ มีจดทะเบียนบริษัท มีนิติบุคคล มีรีวิวลูกค้าจริงไหม?

     

    สรุป หากคุณมองหาผู้รับเหมามืออาชีพในลำพูน – Plantoprompt คือคำตอบ

    การจะก่อสร้างอาคารที่ดี ไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงงาน หรืออาคารพาณิชย์ ไม่ได้อยู่ที่ราคาถูกที่สุด แต่อยู่ที่ คุณภาพ ความปลอดภัย และการบริการที่ครอบคลุมทุกระบบ

    หากคุณต้องการ

    • งานก่อสร้างที่จบครบในบริษัทเดียว
    • มีทั้งวิศวกรโครงสร้าง–ไฟฟ้า–สุขาภิบาล
    • ประสบการณ์จริงในพื้นที่ลำพูน
    • ทีมที่ให้คำปรึกษาก่อนเริ่มโครงการได้อย่างละเอียด

    บริษัท Plantoprompt Co., Ltd. พร้อมเป็นพันธมิตรของคุณในทุกโครงการก่อสร้างในจังหวัดลำพูน และภาคเหนือทั้งหมด

  • รับเหมาก่อสร้าง เชียงราย

    17 July 2025

    เชียงราย จังหวัดชายแดนที่เต็มไปด้วยความหลากหลาย ทั้งด้านภูมิประเทศ สถาปัตยกรรม และรูปแบบการพัฒนาเมืองในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการในการก่อสร้างเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในภาคที่อยู่อาศัย เช่น บ้านเดี่ยว โครงการจัดสรร ไปจนถึงภาคธุรกิจ เช่น อาคารพาณิชย์ โกดังสินค้า และโรงงานผลิต

    หลายคนที่ต้องการสร้างบ้านหรือขยายธุรกิจในพื้นที่จึงเริ่มค้นหา “บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เชียงราย” เพื่อมองหาทีมงานมืออาชีพที่รู้พื้นที่ สื่อสารง่าย และราคายืดหยุ่น เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจของเชียงรายโดยเฉพาะ

    บทความนี้จะพาคุณไป

    • แจกเคล็ดลับเลือกผู้รับเหมาท้องถิ่น
    • สรุปข้อดีของการจ้างช่างในพื้นที่
    • พร้อมแนบช่องทางติดต่อ–แผนที่ประกอบ (หากต้องการทำเป็น Directory Listing)รับเหมาก่อสร้าง เชียงราย

    ทำไมควรเลือก “บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เชียงราย” ที่เป็นช่างท้องถิ่น?

    ก่อนจะพาไปดูรายชื่อบริษัท ขอแนะนำข้อดีที่หลายคนอาจมองข้ามเกี่ยวกับการเลือกผู้รับเหมาท้องถิ่น ดังนี้:

    1. เข้าใจพื้นที่–ภูมิประเทศเป็นอย่างดี

    เชียงรายมีทั้งเขตเมือง ที่ราบ และพื้นที่เนินสูง ซึ่งการสร้างบ้านหรือโรงงานในแต่ละโซนจำเป็นต้องเข้าใจดิน ฟ้าฝน น้ำท่วม ความลาดเอียง ฯลฯ ทีมท้องถิ่นจะมีประสบการณ์จากหน้างานจริงในพื้นที่คล้ายกัน

    2. พูดคุยสะดวก–ติดต่อได้ง่าย

    การสื่อสารที่ดีคือหัวใจของงานก่อสร้าง ผู้รับเหมาท้องถิ่นส่วนใหญ่มักพูดจาเข้าใจง่าย ไม่ใช้ศัพท์เทคนิคมากเกินไป แถมยังสามารถนัดเจอที่ไซต์งานได้รวดเร็ว ไม่ต้องรอทีมเดินทางข้ามจังหวัด

    3. ราคายืดหยุ่น–ไม่มีค่าเดินทาง

    บริษัทในพื้นที่ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง เช่น ค่าที่พักทีมงาน ค่าขนส่งวัสดุระยะไกล ทำให้สามารถเสนอราคาได้ใกล้เคียงกับงบของลูกค้า

    4. ดูผลงานจริงในพื้นที่ได้

    คุณสามารถไปดูบ้านหรือโรงงานที่ผู้รับเหมารายนั้นสร้างไว้ในเชียงรายได้ทันที ไม่ต้องพึ่งแค่ภาพในโบรชัวร์ หรือคำบอกเล่า

    รับเหมาก่อสร้างในเชียงราย

    เคล็ดลับ เปรียบเทียบผู้รับเหมาก่อสร้างยังไงให้เลือกเจ้า “ที่ใช่”

    1. ขอใบเสนอราคาที่มีรายละเอียด (BOQ)

    ขอรายการวัสดุ รายการงาน พร้อมราคาต่อหน่วย เพื่อเปรียบเทียบแบบ apple-to-apple

    2. ดูผลงานจริง

    ขอชมบ้าน/อาคารที่เคยสร้าง (หรือแวะดูหน้างานที่กำลังก่อสร้าง)

    3. เช็กใบอนุญาตและชื่อทีมวิศวกร

    ตรวจสอบว่าบริษัทมีวิศวกรรับรองจริงหรือไม่ หากเป็นนิติบุคคล ต้องขึ้นทะเบียนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

    4. ถามถึงระยะเวลาก่อสร้าง–แผนงาน

    บริษัทที่ดีควรบอกคุณได้ว่า ใช้เวลากี่เดือน ทำอะไรในแต่ละช่วง

    5. อย่ารีบจ่ายเงินก้อนแรกมากเกินไป

    งวดแรกควรไม่เกิน 10–20% ของโครงการ และต้องมีเอกสารชัดเจนแนบกับสัญญา

    สรุป สร้างบ้าน สร้างโรงงานในเชียงราย ไม่ต้องมองไกล

    บริษัทรับเหมาก่อสร้าง เชียงราย มีให้เลือกหลากหลาย ตั้งแต่ช่างท้องถิ่นขนาดเล็ก ไปจนถึงบริษัทที่มีทีมวิศวกรครบวงจร ขึ้นอยู่กับประเภทโครงการและงบประมาณของคุณ

    การเลือกช่างในพื้นที่ ไม่เพียงประหยัดงบและใกล้ตัว แต่ยังมีโอกาสได้ “ทีมที่เข้าใจเชียงราย” และสร้างงานที่เหมาะกับภูมิภาคนั้นได้ดีที่สุด

  • 15 July 2025

    สารบัญ

    หากคุณกำลังวางแผนลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า เปิดหน้าร้าน หรือทำโฮมออฟฟิศ การ “สร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น” คือหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยม ด้วยฟังก์ชันที่หลากหลาย ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่า และสร้างผลตอบแทนในระยะยาว

    แต่อย่าเพิ่งรีบจ้างผู้รับเหมาโดยยังไม่รู้ขั้นตอน เพราะการสร้างอาคารพาณิชย์นั้นมีรายละเอียดมากกว่าแค่ “ออกแบบ-ก่อสร้าง” โดยเฉพาะเรื่องใบอนุญาต กฎหมายอาคาร และการคำนวณต้นทุนที่แท้จริง

    บทความนี้จะพาคุณไปรู้จัก

    • ขั้นตอนการเตรียมตัวสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น
    • งบประมาณเบื้องต้น (แยกเป็นหมวดค่าใช้จ่าย)
    • ตัวอย่างแบบอาคารยอดนิยม
    • วิธีเลือกผู้รับเหมาที่เหมาะกับงานของคุณ

    ขั้นตอนการสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

    ขั้นตอนการสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ตั้งแต่ศูนย์ถึงส่งมอบ

    1. เลือกที่ดินให้เหมาะกับการค้า

    การเลือกที่ตั้งคือหัวใจของความคุ้มค่า เพราะอาคารพาณิชย์เน้น “ทำเล” มากกว่ารูปแบบ เช่น:

    • ที่ดินติดถนนใหญ่ ถนนซอยที่มีคนผ่าน
    • หน้าโรงงาน หน้าโรงเรียน หรือใกล้แหล่งชุมชน
    • พื้นที่ไม่ต่ำกว่าระดับถนน เพื่อป้องกันน้ำท่วม
    • ความลึกหน้ากว้างเหมาะกับรูปทรงอาคาร (เช่น 4×12 เมตร)

    ข้อควรรู้ คือ ถ้าที่ดินติดทางสาธารณะ ต้องดูแนวเขตและความกว้างของถนนด้วย เพราะจะมีผลต่อระยะถอยร่นตามกฎหมาย

    2. ว่าจ้างผู้ออกแบบที่มีใบอนุญาต

    ก่อนขออนุญาตก่อสร้าง ต้องมีแบบแปลนที่ออกโดยสถาปนิกและวิศวกรที่ได้รับใบอนุญาต และผ่านมาตรฐานข้อบังคับของอาคารพาณิชย์ เช่น:

    • มีบันไดหนีไฟ
    • โครงสร้างรับน้ำหนัก 3 ชั้น
    • ระบบระบายน้ำ ฝน–ทิ้ง–สุขาภิบาล
    • แปลนไฟฟ้าและประปาที่ปลอดภัย

    แบบอาคารควรมีฟังก์ชันยืดหยุ่น เช่น พื้นที่ค้าขายชั้นล่าง + ชั้นบนพักอาศัย หรือแบ่งเป็น 3 ห้องเช่าแยกยูนิต

    3. ขอใบอนุญาตก่อสร้างจากเทศบาล/อบต.

    เอกสารที่ต้องใช้ ได้แก่

    • แบบแปลนพร้อมลายเซ็นสถาปนิก/วิศวกร
    • สำเนาโฉนดที่ดิน
    • หนังสือยินยอมจากเจ้าของที่ (ถ้าไม่ใช่เจ้าของเอง)
    • แบบฟอร์มคำขอ (ข.1)
    • สำเนาบัตรประชาชน

    กระบวนการอนุญาตใช้เวลาเฉลี่ย 30–60 วัน (แล้วแต่พื้นที่)

    คำแนะนำ : บริษัทรับเหมาหรือผู้ออกแบบบางรายสามารถดำเนินเรื่องขออนุญาตแทนคุณได้

    4. เริ่มงานก่อสร้าง (โดยมีผู้ควบคุมงาน)

    หลังได้รับใบอนุญาตจึงจะเริ่มงานก่อสร้างได้ โดยควรมี

    • สัญญาก่อสร้างระบุระยะเวลาก่อสร้าง งวดชำระ และรายละเอียดวัสดุ
    • วิศวกรควบคุมงานหรือผู้ควบคุมงานประจำโครงการ
    • บันทึกความคืบหน้าแต่ละงวดงาน พร้อมตรวจสอบก่อนจ่ายเงิน

    5. ขอเลขที่บ้าน–ขอติดตั้งไฟฟ้า ประปา

    หลังโครงสร้างแล้วเสร็จ สามารถ

    • ขอเลขที่บ้านจากอำเภอ
    • ขอติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้า-ประปากับการไฟฟ้า/ประปาในพื้นที่
    • ขอใบรับรอง “ปลอดภัยในการใช้งาน” จากวิศวกร

    6. ตรวจรับงาน + ส่งมอบอาคาร

    เมื่องานเสร็จสมบูรณ์ ควรมีการ:

    • ตรวจรับงานโครงสร้าง ไฟฟ้า สุขาภิบาล
    • ขอรับประกันงาน 1–2 ปี (ขึ้นอยู่กับสัญญา)
    • ส่งมอบอาคารพร้อมคู่มือการใช้งานระบบ (ถ้ามี)

    งบประมาณเบื้องต้นในการสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

    งบประมาณเบื้องต้นในการสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

    การประเมินงบควรแยกเป็นหมวด เพื่อให้เห็นภาพรวมค่าใช้จ่ายที่แท้จริง:

    รายการ

    งบประมาณโดยประมาณ

    1. ค่าก่อสร้างโครงสร้างหลัก (เสา, คาน, ผนัง, หลังคา) 9,000 – 12,000 บาท/ตร.ม.
    2. ค่าระบบไฟฟ้า–ประปา–สุขาภิบาล 500 – 1,000 บาท/ตร.ม.
    3. ค่าตกแต่งพื้น–ฝ้า–ประตูหน้าต่าง 2,000 – 3,000 บาท/ตร.ม.
    4. ค่าออกแบบ + ขออนุญาต 50,000 – 150,000 บาท
    5. ค่าระบบกันขโมย–ไฟฟ้าสำรอง (ถ้ามี) 30,000 – 80,000 บาท
    6. ค่าภาษี ค่าธรรมเนียมใบอนุญาต 10,000 – 30,000 บาท

    ตัวอย่าง : อาคารพาณิชย์ 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอย 180 ตร.ม. (6×10 เมตร 3 ชั้น)

    งบก่อสร้างรวม (แบบพื้นฐาน) : 1.6 – 2.5 ล้านบาท ถ้ารวมตกแต่งเต็มระบบ + ระบบไฟฟ้าครบ อาจถึง 3 ล้านบาทขึ้นไป

    แบบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ยอดนิยมในปี 2025

    แบบ 1 ชั้นล่างค้าขาย + ชั้นบนพักอาศัย

    เหมาะกับ ผู้เริ่มต้นธุรกิจ หรือผู้ปล่อยเช่า

    • ชั้น 1 = โชว์รูม, ร้านค้า
    • ชั้น 2–3 = ห้องนอน + ห้องน้ำ + ห้องครัว
    • มีพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน

    แบบ 2 อาคารพาณิชย์แยกห้องเช่า 3 ยูนิต

    เหมาะกับ นักลงทุนปล่อยเช่า

    • 1 ยูนิต ต่อชั้น มีห้องน้ำและมิเตอร์แยก
    • ชั้นล่างให้ผู้เช่าเปิดร้าน, ชั้นบนเป็นที่พัก
    • ปล่อยเช่าได้หลายช่องทางทั้งรายวัน-รายเดือน

    แบบ 3 โฮมออฟฟิศทันสมัย

    เหมาะกับ สำนักงานขนาดเล็ก

    • ชั้น 1 = โถงรับลูกค้า
    • ชั้น 2 = สำนักงาน/ห้องประชุม
    • ชั้น 3 = พักอาศัยหรือคลังเก็บสินค้า
    • ดีไซน์ทันสมัย หน้ากว้างพร้อมกระจกบานใหญ่

    สร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น

    เลือกผู้รับเหมาสร้างอาคารพาณิชย์อย่างไรให้ไม่พลาด?

    • ดูผลงานอาคารพาณิชย์มาก่อน

    ไม่ใช่ผู้รับเหมาทุกคนจะเข้าใจฟังก์ชันของอาคารพาณิชย์ การจัดวางบันได ระบบสุขาภิบาล และโครงสร้างเชิงพาณิชย์ต้องมีความรู้เฉพาะ

    • มีทีมออกแบบ + ดำเนินเรื่องขออนุญาต

    บริษัทที่ดูแลแบบครบวงจร ตั้งแต่แบบ–ก่อสร้าง–ขออนุญาต มักทำงานเป็นระบบ ลดภาระเจ้าของบ้าน

    • เสนอราคาแบบมี BOQ รายละเอียด

    ควรมีรายการวัสดุชัดเจน เช่น ปริมาณปูน เหล็ก ท่อ สายไฟ ฯลฯ เพื่อให้เปรียบเทียบได้และควบคุมงบประมาณ

    • มีสัญญาก่อสร้างและรับประกันหลังส่งมอบ

    สัญญาที่ดีควรระบุระยะเวลาก่อสร้าง วิธีแบ่งงวดเงิน รับประกันงาน และกรณีเกิดความล่าช้า

     

    สรุป การสร้างอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ต้องวางแผนรอบด้าน

    หากคุณกำลังจะลงทุนสร้างอาคารพาณิชย์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อทำธุรกิจของตนเอง ปล่อยเช่า หรือสร้างเก็บระยะยาว การรู้ ขั้นตอน และ ค่าใช้จ่ายที่แท้จริง รวมถึงการเลือก ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์กับอาคารพาณิชย์ คือสิ่งสำคัญ

    “เริ่มต้นดี มีแผนชัดเจน เลือกทีมที่ใช่” จะช่วยให้โครงการของคุณไม่บานปลาย ไม่ถูกทิ้งงาน และพร้อมใช้งานอย่างปลอดภัยในระยะยาว

  • รับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน

    14 July 2025

    สารบัญ

    เมื่อถึงเวลาที่ต้องสร้างบ้าน รีโนเวทอาคาร หรือวางแผนสร้างโรงงานเล็ก ๆ สิ่งที่หลายคนค้นหาอันดับแรกคือ บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน เพราะเชื่อว่า “ช่างใกล้บ้าน” หรือ “บริษัทท้องถิ่น” นั้นเข้าถึงง่าย พูดคุยได้สะดวก และดูแลโครงการได้ต่อเนื่อง

    แต่คำถามคือ… จะเลือกอย่างไรให้เจอช่างท้องถิ่นที่มืออาชีพ ไม่ทิ้งงาน ไม่บานปลาย และคุณภาพได้มาตรฐานจริง ๆ

    ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปรู้จัก

    • ข้อดีของการเลือก บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ท้องถิ่น
    • วิธีค้นหาผู้รับเหมาใกล้บ้าน
    • เทคนิคตรวจสอบเบื้องต้นก่อนจ้าง
    • และแจกฟรี! เทมเพลตคำถามสัมภาษณ์ผู้รับเหมา ที่ช่วยให้คุณไม่พลาด

    รับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน

    ทำไมหลายคนเลือก บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน

    การจ้างบริษัทใกล้บ้าน หรือในพื้นที่เดียวกัน ไม่ใช่แค่สะดวกอย่างเดียว แต่ยังมีข้อดีสำคัญที่อาจไม่เคยรู้

    1. รู้จักพื้นที่ดี

    ช่างท้องถิ่นเข้าใจสภาพดิน สภาพน้ำ ภูมิอากาศของพื้นที่นั้น ๆ ได้ดีกว่า เช่น รู้ว่าพื้นที่ไหนน้ำท่วมง่าย ต้องยกพื้นสูง หรือดินอ่อนต้องเสริมฐานราก

    1. ติดตามงานง่าย ไม่ต้องรอเดินทางนาน

    บริษัทในพื้นที่สามารถเข้าหน้างานได้ทุกวัน หากมีปัญหาเร่งด่วน เช่น น้ำรั่ว ฝนตก หรือต้องแก้ไขทันที ก็สามารถเข้ามาดูแลได้ไวกว่าบริษัทจากต่างจังหวัด

    1. ราคายืดหยุ่นกว่า

    ผู้รับเหมาท้องถิ่นไม่มีค่าขนส่งไกล ค่าที่พัก หรือค่าเบี้ยเลี้ยงทีมงาน ทำให้มีต้นทุนต่ำกว่า และพร้อมเจรจาราคากับเจ้าของบ้านได้มากกว่าบริษัทใหญ่

    1. บริการหลังงานดีกว่า

    หากเกิดปัญหาหลังสร้าง เช่น ผนังแตกร้าว ระบบน้ำรั่ว ช่างในพื้นที่สามารถเข้ามาซ่อมได้ภายในวันหรือสองวัน ไม่ต้องรอคิว หรือเสียค่าบริการซ้ำ

    1. มีคนในพื้นที่แนะนำหรือเคยจ้างแล้ว

    คุณสามารถสอบถามเพื่อนบ้าน หรือดูผลงานของผู้รับเหมานั้นได้จากบ้านใกล้เคียงที่เขาเคยสร้าง หรือถามแบบตรง ๆ จากลูกค้าเก่าที่อยู่ละแวกเดียวกัน

    วิธีค้นหา บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน อย่างชาญฉลาด

    • ค้นหาผ่าน Google / Google Maps

    ลองค้นด้วยคำว่า “บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน” หรือ “ช่างสร้างบ้าน [ชื่ออำเภอ]” ระบบจะขึ้นรายชื่อบริษัทในพื้นที่ใกล้ตัว

    เคล็ดลับ : อ่านรีวิวจาก Google ให้ละเอียด

    • โพสต์ถามในกลุ่ม Facebook ท้องถิ่น

    กลุ่มอย่าง “ช่างเชียงใหม่”, “รับเหมาราคาดีภาคเหนือ”, “สร้างบ้านลำพูน–ลำปาง” มักมีคนแนะนำช่างที่เคยจ้างจริง พร้อมภาพผลงาน

    • สอบถามจากเพื่อนบ้าน/ผู้ใหญ่บ้าน

    การถามจากคนที่เคยใช้บริการช่างจริง เป็นวิธีที่แม่นยำที่สุด และมักได้ข้อมูลเบื้องหลังว่า “งานเสร็จตรงเวลาไหม มีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

    • ดูงานที่ช่างเคยทำจริง

    ถ้าบ้านหรืออาคารใกล้ ๆ มีการสร้างใหม่ ลองสอบถามดูว่าใครเป็นผู้รับเหมา และคุณสามารถขอเข้าไปชมผลงานใกล้เสร็จได้ด้วย

    รับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน

    ตรวจสอบอย่างไรให้มั่นใจก่อนตัดสินใจจ้าง?

    ไม่ว่าผู้รับเหมาจะอยู่ใกล้หรือไกล คุณควรเช็คข้อมูลเหล่านี้เสมอก่อนจ้าง:

    1. ดูผลงานที่ผ่านมา

    • มีภาพบ้านหรืออาคารที่เคยสร้างไหม?
    • มีลูกค้าเดิมให้โทรสอบถามได้หรือเปล่า?
    1. เช็คเอกสารเบื้องต้น

    • มีนามบัตร/ใบเสนอราคาที่เป็นทางการ
    • มีที่อยู่ชัดเจน เบอร์โทรติดต่อง่าย
    • ถ้าเป็นบริษัท ควรขอเลขทะเบียนนิติบุคคล
    1. ทำสัญญาชัดเจน

    • มีแบบแปลนหรือรายการวัสดุแนบกับสัญญาไหม?
    • กำหนดระยะเวลาแล้วเสร็จและค่าปรับกรณีล่าช้า
    • แบ่งงวดการจ่ายเงินให้สอดคล้องกับความคืบหน้าของงาน
    1. อย่ามัดจำงวดแรกสูงเกินไป

    • ปกติงวดแรกไม่ควรเกิน 10–20% เพื่อไม่ให้เสียเปรียบหากถูกทิ้งงาน

    คำถามสัมภาษณ์ผู้รับเหมา (ใช้ได้ทั้งรายเล็กและรายบริษัท)

    หมวดคำถาม

    ตัวอย่างคำถาม

    ประสบการณ์ คุณเคยสร้างบ้าน/อาคารแบบนี้มากี่หลัง?
    มีผลงานในพื้นที่นี้ไหม? ขอชมได้หรือเปล่า?
    ระยะเวลาและขั้นตอน ถ้าตกลงเริ่มงาน จะใช้เวลากี่วัน/เดือนเสร็จ?
    ขั้นตอนการก่อสร้างมีอะไรบ้าง?
    ทีมงาน ใช้ทีมช่างของตัวเอง หรือจ้างซับคอนแทรกต์?
    มีผู้ควบคุมงานหรือวิศวกรประจำไซต์ไหม?
    วัสดุ ใช้วัสดุจากไหน? เลือกเกรดวัสดุได้ไหม?
    ถ้าต้องการปรับวัสดุ จะเพิ่มเงินเท่าไร?
    งบประมาณและสัญญา มีใบเสนอราคาเป็นรายการไหม? (BOQ)
    สามารถแบ่งจ่ายเป็นงวดตามความคืบหน้าได้ไหม?
    บริการหลังงาน มีประกันงานก่อสร้างกี่ปี?
    ถ้าเกิดรั่วซึมหรือแตกร้าว จะรับผิดชอบยังไง?

     

    สัญญาณเตือน! ผู้รับเหมาที่ควรหลีกเลี่ยง

    • เริ่มต้นด้วยราคาถูกผิดปกติ แต่ไม่มีรายการวัสดุชัดเจน
    • เร่งให้มัดจำเร็วโดยไม่เสนอแบบหรือตารางงาน
    • ไม่มีผลงานให้ดู หรือมีแต่ภาพจากอินเทอร์เน็ต
    • เปลี่ยนเบอร์บ่อย ติดต่อยาก หรือไม่ค่อยตอบข้อความ

    สรุป การค้นหา บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ใกล้ฉัน ให้ได้มืออาชีพ ไม่ใช่เรื่องยาก

    หากคุณเลือกอย่างมีข้อมูล และใช้เครื่องมือที่ถูกต้อง เช่น

    • ค้นจาก Google Maps + รีวิว
    • โพสต์ถามกลุ่มท้องถิ่น
    • ขอผลงานจริง
    • ใช้เทมเพลตคำถามสัมภาษณ์

    ติดต่อ Plantoprompt

สงวนลิขสิทธิ์ © [ 2023 ] บริษัท แพลนทูพร้อมท์ จำกัด. บทความทั้งหมดในเว็บไซต์นี้เป็นทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัท แพลนทูพร้อมท์ จำกัด ห้ามนำไปใช้, ทำซ้ำ, แก้ไข, หรือเผยแพร่ต่อสาธารณะไม่ว่าจะในรูปแบบใด ๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบริษัท. การละเมิดสิทธิ์ใด ๆ จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย.