จะก่อสร้างทั้งทีเลือกใครดี? หากพูดถึงคนที่ทำหน้าที่ในการควบคุม และ ดำเนินการก่อสร้างให้บ้าน หรือ อาคารเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ก็คงหนีไม่พ้นผู้รับเหมาเป็นแน่ ซึ่งผู้รับเหมาถือว่ามีบทบาทอย่างมากในการก่อสร้าง แต่ถึงแม้ว่าเราจะเรียกผู้ที่ดำเนินการควบคุมการก่อสร้างว่าผู้รับเหมาก็ตาม แต่จริงๆ แล้วผู้รับเหมาเองก็มีอยู่หลายประเภท ซึ่งแต่ละประเภทก็จะมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน ทั้งการรับเหมาก่อสร้างที่เป็นรูปแบบบริษัท รับเหมาก่อสร้าง และ ผู้รับเหมารายย่อย ซึ่งหลายคนอาจจะเข้าใจผิดได้ว่า ทั้งสองประเภทนี้คือแบบเดียวกัน เพราะถึงแม้ว่าทั้งสองประเภทจะมีความใกล้เคียงกันก็ตาม แต่ก็ไม่เหมือนกันซะทีเดียว
บริษัทรับเหมาก่อสร้าง (Construction Company) เป็นธุรกิจที่มีหน้าที่ดำเนินกิจการในการสร้างสรรค์โครงการก่อสร้างต่าง ๆ ตามความต้องการของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีบทบาทหลายประการที่ต้องปฏิบัติ
- ประสานงานกับลูกค้า:
- สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับความต้องการของลูกค้าและวางแผนการดำเนินงานตามนั้น.
- ให้คำปรึกษาและช่วยเสริมสร้างไอเดียในการดำเนินโครงการ.
- การจัดทำงบประมาณ:
- ประเมินค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับโครงการ.
- จัดทำงบประมาณที่เป็นไปตามความต้องการและความเหมาะสม.
- จัดหาวัสดุและอุปกรณ์:
- จัดหาและจัดการวัสดุ อุปกรณ์ และทรัพยากรที่จำเป็นต้องใช้ในโครงการ.
- ควบคุมการจัดซื้อสินค้าและทำสัญญากับผู้จัดหา.
- การจัดการแรงงาน:
- จัดการแรงงานในโครงการ รวมถึงการประสานงานและการควบคุมการทำงาน.
- สร้างทีมงานที่มีความสามารถและมีความเชี่ยวชาญ.
- ควบคุมคุณภาพ:
- ตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของงานที่ดำเนินการ.
- ใช้มาตรฐานและวิธีการทางวิศวกรรมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพ.
- ตรวจสอบความปลอดภัย:
- ให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน.
- จัดทำและปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยในการดำเนินงาน.
- บริหารการเงิน:
- จัดการระบบบัญชีและการเงินของโครงการ.
- ควบคุมการใช้จ่ายและรายได้.
- สื่อสารและรายงาน:
- ควบคุมการสื่อสารในโครงการ รวมถึงการติดต่อกับลูกค้าและผู้ที่เกี่ยวข้อง.
- รายงานความคืบหน้าและปัญหาที่เกิดขึ้น.
- การดูแลซ่อมบำรุง:
- จัดทำแผนดูแลรักษาหลังจากการก่อสร้างเสร็จ.
- ดำเนินการซ่อมแซมและบำรุงรักษาตามความเหมาะสม.
ผู้รับเหมารายย่อย (Subcontractor) คือบุคคลหรือบริษัทที่ได้รับสัญญาจากผู้รับเหมาหลักหรือบริษัทรับเหมาหลักในโครงการก่อสร้างเพื่อดำเนินการทำงานบางประการหรืองานที่เป็นลักษณะเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นงานที่ไม่ได้ทำโดยตรงโดยผู้รับเหมาหลัก หรืออาจจะเป็นงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะที่ผู้รับเหมาหลักไม่มี
- ความเชี่ยวชาญทางเฉพาะ:
- บางครั้ง, งานบางประการในโครงการก่อสร้างอาจต้องการความเชี่ยวชาญทางเฉพาะที่ผู้รับเหมาหลักไม่มี.
- ผู้รับเหมารายย่อยมักมีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในงานที่เฉพาะเจาะจง.
- ลดความซับซ้อนในการจัดการ:
- การจ้างผู้รับเหมารายย่อยในงานที่เฉพาะเจาะจงช่วยลดความซับซ้อนในการจัดการโครงการสำหรับผู้รับเหมาหลัก.
- ช่วยในการทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ.
- การจัดหาทรัพยากร:
- ช่วยในการจัดหาทรัพยากรที่จำเป็นสำหรับงานที่ต้องการความเชี่ยวชาญทางเฉพาะ.
- ลดความซับซ้อนในการจัดการซื้อวัสดุและทรัพยากร.
- ควบคุมต้นทุน:
- การใช้ผู้รับเหมารายย่อยในงานที่เฉพาะเจาะจงช่วยในการควบคุมต้นทุนของโครงการ.
- มีการคาดการณ์ทรัพยากรและค่าแรงงานที่มีความแม่นยำ.
- สามารถทำงานพร้อมกัน:
- ช่วยให้โครงการดำเนินไปได้เร็วขึ้นเนื่องจากการทำงานสามารถทำพร้อมกันได้.
- เพิ่มความเร็วในการดำเนินงาน.
- การดูแลซ่อมบำรุง:
- ผู้รับเหมารายย่อยมักมีความรับผิดชอบในการดูแลซ่อมบำรุงหลังจากการก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์.
การเลือกบริษัทรับเหมาก่อสร้างหรือผู้รับเหมาขึ้นอยู่กับตัวคุณมีความสำคัญมากที่จะทำความเข้าใจความต้องการและลักษณะของโครงการที่คุณกำลังดำเนินการ และหากเลือกได้อย่างถูกต้อง ทั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้างและผู้รับเหมามีทั้งความสามารถและประสบการณ์ในการทำให้โครงการสำเร็จ.